Kinaree Article


โขนพระราชทาน

โขน1.jpgโขน4.jpgโขน3.jpgโขน2.jpg
โขนพระราชทาน

“โขนพระราชทาน” เกิดขึ้นโดยพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอนุรักษ์การแสดงโขนอันเป็นศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่ายิ่งของชาติไทย

ทรงมีพระราชดำริให้สรรหาและคัดเลือกนักเรียนการแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วทุกภาคของประเทศมาฝึกกับครูอาจารย์ซึ่งเป็นศิลปินอาวุโสของกรมศิลปากรเพื่อการแสดงโขนโดยเฉพาะโปรดเกล้าฯให้สร้างเครื่องแต่งกายโขนขึ้นใหม่ทั้งหมด ดูสวยสดงดงามตระการตา ตลอดจนให้ปรับปรุงวิธีแต่งหน้าโขน และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการจัดสร้างฉากโขนแต่ละฉากซึ่งมีความวิจิตรพิสดารยิ่งนัก

“โขนพระราชทาน” นี้ ได้โปรดเกล้าฯ จัดให้มีการแสดงมาแล้ว 3 ชุด คือ ปี 2550 และ ปี 2552 ชุดพรหมมาศ-ปี 2553 ชุดนางลอย และปี 2554 ชุดศึกมัยราพณ์

สำหรับปี 2555 นี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเลือก ชุด “จองถนน” เพื่อให้ประชาชนได้ชมระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2555 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย การแสดงในชุดนี้ เป็นตอนที่พระรามจะกรีธาทัพเข้าตีกรุงลงกาของทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นเมืองอยู่บนเกาะในทะเลห่างจากฝั่ง จำเป็นต้องถมทะเลเพื่อสร้างถนน จึงจะกรีธาทัพดำเนินการยุทธ์ต่อไปได้

เรื่องรามเกียรติ์ เป็นเรื่องการต่อสู้ระหว่างฝ่ายธรรมะ(พระราม และกองทัพลิง) กับ ฝ่ายอธรรม (ทศกัณฐ์ และหมู่มารไพร่พลยักษ์) ตลอดระยะเวลาที่ผู้เขียนชมการแสดงโขนชุด “จองถนน” นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลิน สนุกสนาน และมีความภาคภูมิใจ และชื่นชมศิลปวัฒนธรรมประจำชาติแล้ว ยังได้ข้อคิดเป็นคติเตือนใจอีกด้วย

ประการแรก เป็นเรื่องที่พระรามมอบหมายให้ สุครีพหนุมาน และ นิลพัท นำหินจากภูเขามาถมถนนข้ามไปกรุงลงกา นิลพัทมีความแค้นเคืองหนุมานเพราะมีข้อบาดหมางใจกันมาก่อน จึงมีการกลั่นแกล้งหนุมาน ต่างฝ่ายต่างไม่ลดราวาศอก จนเกิดทะเลาะวิวาทกัน แม้สุครีพพญาวานรผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถที่จะห้ามปรามได้ เพราะทั้งคู่ต่างก็มีฤทธิ์เปรียบเสมือนพญาเสือ ย่อมไม่อาจอยู่ถ้ำเดียวกันได้เรื่องจึงถึงพระรามต้องตัดสินแบ่งแยกหน้าที่พญาวานรทั้งสองออกจากกัน โดยให้นิลพัทไปอยู่เมืองขีดขินทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพ ส่วนหนุมานให้รับผิดชอบเรื่องจองถนนให้เสร็จภายในเจ็ดวัน ในที่สุดพระรามก็สามารถเดินทัพข้ามทะเลไปตีกรุงลงกาได้

เรื่องนี้ มีคติว่า “การจะทำงานใหญ่ ผู้ปฏิบัติจะต้องรู้รักสามัคคี ไม่แสดงอำนาจ เบ่งใส่กัน และผู้นำจะต้องมีความรู้ความสามารถ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา” ดังเช่นเหล่าพญาวานรทั้งหลายมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระราม

แตกต่างจากเหตุการณ์ปัจจุบัน ปัญหาการสู้รบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังทวีความรุนแรงอยู่ เพราะ “ทักษิณ” อดีตผู้นำรัฐบาลตั้งอยู่บนความโลภ และความประมาทใช้วาทะ “โจรกระจอก” ดูถูกกำลังฝ่ายศัตรู แม้จะปั้นน้องสาวให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยิ่ง “กระจอกกว่าโจร” เสียอีก เพราะนายกรัฐมนตรีขาดภาวะผู้นำไม่สามารถใช้คนให้ถูกกับงานได้ บรรดาลูกสมุนทั้งหลายต่างแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เมื่อได้ตำแหน่งแล้วกลับเกี่ยงงานกัน ไม่มีใครกล้ารับงานแก้ปัญหาไฟใต้ ทุกคนต่างปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ

ประการที่สอง ขณะที่หนุมาน ดำเนินการจองถนนนำหินมาถมทะเล ทศกัณฐ์ได้มอบให้ลูกสาวแสนสวย คือ“นางสุพรรณมัจฉา” นำบริวารปลามาช่วยกันขนหินที่เหล่าวานรถมไว้ทิ้งเสียให้หมด แต่หนุมานทหารเอกพระราม ก็ใช่ย่อยสามารถจับตัวนางสุพรรณมัจฉาได้ และหว่านเสน่ห์จนนางสุพรรณมัจฉายอมเป็นเมีย แล้วสั่งให้บริวารปลานำหินกลับคืนที่เดิม

เนื้อเรื่องตอนนี้ น่าจะเป็นคติแก่เหล่าแม่ทัพนายกองทั้งหลายว่า “จงอย่าได้ลุ่มหลงในลูกสาว หรือน้องสาวโจรจนเสียราชการงานเมือง” หากจำเป็นต้องร่วมงานเพราะสถานการณ์บีบบังคับ ก็จงมีสติตั้งมั่น ใช้เสน่ห์หว่านล้อมลูกสาว หรือน้องสาวโจร ให้กลับใจช่วยจับโจรมาติดคุกซะเลยดังเช่นหนุมานชาญสมร...ได้ทั้งตัวลูกสาวโจรและงานราชการด้วย!!!

เสาชิงช้า หน้าโบสถ์พราหมณ์

 ที่มา http://www.naewna.com/politic/columnist/4018


Content's Picture

Size : 80.80 KBs
Upload : 2015-06-06 11:08:54
Comment(s)

Current Page(s) 1/0
<<
1
>>

Vote this Content ?

1
Vote(s)
Create by :


Kinaree
Detail Share
Status : ผู้ใช้ทั่วไป
ศิลปะ


http://


Generated 0.043509 sec.